การเริ่มต้นและการใช้งานดินเงิน Silver Clay

ทำอย่างไรเมื่อดินแห้ง แข็ง ขึ้นรูปไม่ได้?

1. ทาน้ำมันมะกอกหรือเบบี้ ออยล์ลงบนมือและอุปกรณ์ในการทำให้ทั่ว

2. วางดินที่แข็งไว้บนแผ่นชีทแล้วใช้ไม้กลิ้งนวดดินไปเรื่อยๆ

3. เติมน้ำเปล่าบนดินสัก 2-3 หยดแล้วลองนวดใหม่อีกครั้ง

4. นวดไปเรื่อยๆจนกว่าดินจะเริ่มนิ่มและสามารถปั้นขึ้นรูปชิ้นงานได้อีกครั้ง

ต้องใช้อุปกรณ์อะไรบ้างในการทำเครื่องประดับจาก Shannta Silver Clay?

สำหรับผู้เริ่มต้น อุปกรณ์พื้นฐานที่แนะนำคือ

  1. แผ่นรองชิ้นงาน 
  2. ลูกกลิ้งขนาดเล็ก
  3. แผ่นวัดความหนาชิ้นงาน
  4. น้ำมัน (เช่น น้ำมันมะกอกหรือ Baby Oil) สำหรับทามือและอุปกรณ์กันดินติด
  5. เครื่องมือปั้น แกะสลัก และมีดสำหรับตัดแต่ง
  6. แปรงพู่กันสำหรับทาน้ำเพื่อเชื่อมต่อชิ้นส่วนและเพื่อเก็บรายละเอียด
  7. เตาเผาไฟฟ้า (Kiln) หรือ หัวพ่นไฟ (Butane Torch) หรือ เตาแก๊ส สำหรับการเผา

 

วิธีการเก็บรักษา Shannta Silver Clay ที่ยังไม่ได้ใช้
ควรเก็บดินเงินในห่อพลาสติกแรปให้แน่น แล้วใส่ในกล่องหรือถุงซิปล็อกที่ปิดสนิท เพื่อป้องกันอากาศเข้าและทำให้ดินแห้ง ควรเก็บให้พ้นจากความร้อนและแสงแดด
ต้องทำให้ชิ้นงานแห้งสนิทก่อนเผาหรือไม่? และจะรู้ได้อย่างไรว่าแห้งสนิทแล้ว?
สำคัญมาก! ชิ้นงานต้องแห้งสนิท 100% ก่อนนำไปเผา เพราะหากมีความชื้นหลงเหลืออยู่ ไอน้ำจะขยายตัวและทำให้ชิ้นงานบิดเบี้ยว แตก หรือเกิดฟองอากาศได้

วิธีตรวจสอบ: นำชิ้นงานไปวางบนแผ่นโลหะอุ่นๆ หรือวางบนกระจก หากมีไอน้ำเกาะแสดงว่ายังไม่แห้งสนิท หรือสามารถนำไปอบในเครื่องอบอาหาร (Food Dehydrator) จนมั่นใจว่าแห้งสนิท
สามารถเผาชิ้นงานด้วยวิธีใดได้บ้าง?
สามารถทำได้ 3 วิธีหลัก

ข้อควรรู้: ในการเผาด้วยวิธีที่ใช้เปลวไฟโดยตรง (หัวพ่นไฟและเตาแก๊ส) อาจเกิดเปลวไฟลุกขึ้นมาชั่วครู่และมีกลิ่นเล็กน้อยเกิดขึ้นที่ชิ้นงาน ไม่ต้องตกใจ เนื่องจากเป็นขั้นตอนปกติที่ตัวประสาน (Binder) กำลังถูกเผาไหม้ออกไป

  1. ใช้หัวพ่นไฟ (Torch Firing): เหมาะสำหรับชิ้นงานขนาดเล็กและไม่หนามาก โดยเผาจนชิ้นงานร้อนเป็นสีส้มแดง และจับเวลาเผาต่ออีกประมาณ 2-5 นาที (ขึ้นอยู่กับขนาดชิ้นงาน)
  2. ใช้เตาแก๊ส (Gas Stove Firing): นำชิ้นงานวางบนตะแกรงสแตนเลส แล้วเผาบนเตาแก๊สจนชิ้นงานเปลี่ยนเป็นสีส้มแดงทั่วทั้งชิ้น
  3. ใช้เตาเผา (Kiln Firing): เป็นวิธีที่ควบคุมอุณหภูมิได้แม่นยำที่สุดและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เหมาะกับชิ้นงานทุกขนาดและทุกความหนา โดยทั่วไปจะเผาที่อุณหภูมิ 800°C - 900°C เป็นเวลาประมาณ 30-60 นาที *วิธีการเผาโดยละเอียดจะแนบไปให้กับสินค้าที่สั่งซื้่อ
ทำไมชิ้นงานหลังเผาถึงเป็นสีขาว ไม่แวววาว?
เป็นเรื่องปกติ สีขาวที่เห็นคือผิวของโลหะเงินที่ผ่านการเผา (Sintering) ซึ่งยังไม่ได้ผ่านการขัดเงา คุณสามารถใช้ไม้แปรงสแตนเลสและไม้หินมโนราห์ในการขัดผิวชั้นนอกนี้ออกเพื่อให้เห็นความแวววาวของเนื้อเงินด้านใน
จะทำให้ชิ้นงานเงางามได้อย่างไร?
หลังจากเผาและทิ้งให้เย็นสนิทแล้ว ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

  1. ขัดด้วยแปรงสแตนเลส: ใช้แปรงขัดเบาๆ บนผิวชิ้นงานเพื่อขจัดผิวสีขาวด้านออกและเผยให้เห็นเนื้อเงิน
  2. ขัดเงา: สามารถขัดต่อด้วยกระดาษทรายเบอร์ละเอียด, แผ่นขัดเงา (Polishing Pads) หรือ ไม้หินมโนราห์ (Agate) เพื่อให้ได้ความเงางามสูงสุด
ชิ้นงานแตกหักระหว่างการทำให้แห้ง เกิดจากอะไร?
สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการทำให้แห้งที่ไม่สม่ำเสมอ หรือชิ้นงานบางเกินไปในบางจุด ควรพยายามทำให้ชิ้นงานแห้งอย่างช้าๆ หรือหากมีรอยแตกเล็กๆ เกิดขึ้น สามารถซ่อมได้ด้วยน้ำ silver slip (silver clay ผสมน้ำเปล่า) ก่อนนำไปเผา
ชิ้นงานเปราะและแตกหักหลังเผา เกิดจากอะไร?

สาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ:

  1. เผาในอุณหภูมิที่ต่ำเกินไป หรือใช้เวลาสั้นเกินไป: ทำให้ผงเงินหลอมละลายเชื่อมกันไม่สมบูรณ์ 
  2. ชิ้นงานยังไม่แห้งสนิทก่อนเผา: ทำให้เกิดรอยร้าวขนาดเล็ก (Micro-cracks) ภายในโครงสร้าง
สามารถฝังเพชร พลอย หรืออัญมณีอื่นๆลงในชิ้นงานได้หรือไม่?
ได้ แต่ต้องเป็นอัญมณีที่ทนความร้อนสูงได้เท่านั้น (มากกว่า 800 ํC) เช่น เพชรสังเคราะห์ (Cubic Zirconia - CZ), พลอยสังเคราะห์ส่วนใหญ่ (Lab-created Sapphires, Rubies) ควรหลีกเลี่ยงอัญมณีธรรมชาติส่วนใหญ่และแก้ว เพราะอาจแตก ละลาย หรือเปลี่ยนสีเมื่อโดนความร้อนสูง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy